ช่วงฤดูผสมพันธุ์

   
เป็น ช่วงที่มีความสำคัญกับนกมากที่สุด เพราะเป็นโอกาสที่นกจะได้ผสมพันธุ์และออกลูก เพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ต่อไป นกแต่ละชนิดต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อฤดูผสมพันธุ์มาถึง ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่มีอาหารสมบูรณ์พอสำหรับเลี้ยงดูลูกนกให้รอดชีวิต นกส่วนใหญ่จึงมักวางไข่ในช่วงปลายฤดูแล้งไปจนถึงกลางฤดูฝน เพื่อให้ลูกนกเจริญเติบโตขึ้นมาในช่วงที่มีอาหารสมบูรณ์ แต่นกน้ำจะเลือกผสมพันธุ์กันในช่วงปลายฤดูฝน เพราะเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก มีอาหารอุดมสมบูรณ์สำหรับเลี้ยงลูกนกที่ออกจากรังพอดี
ใน แต่ละปีนกต้องผสมพันธุ์อย่างน้อย 1 ครั้ง แต่ก็มีหลายชนิดที่ผสมพันธุ์มากกว่านั้น ช่วงเวลาในการผสมพันธุ์จะใกล้เคียงกันสำหรับนกชนิดนั้นๆ และนกมักจับคู่ผสมพันธุ์กันในถิ่นเดิมทุกปี แม้นกย้ายถิ่นยังต้องบินกลับไปสร้างรังวางไข่ยังถิ่นเดิม เพราะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการผสมพันธุ์และเลี้ยงลูกนก นกส่วนใหญ่จับคู่ผสมพันธุ์กับตัวเมียเพียงตัวเดียว บางชนิดจับคู่ด้วยกันตลอดชีวิต เช่น นกกระเรียน แต่บางชนิดตัวผู้ผสมพันธุ์กับตัวเมียหลายตัว เช่น ไก่ ซึ่งตรงข้ามกับนกโป่งวิด ที่ตัวเมียจะเป็นฝ่ายผสมพันธุ์กับตัวผู้หลายตัว แล้วปล่อยให้ตัวผู้ฟักไข่และเลี้ยงลูกตามลำพัง
เมื่อ ถึงช่วงฤดูผสมพันธุ์ ส่วนใหญ่นกตัวผู้จะเป็นฝ่ายสร้างความสนใจเพื่อดึงดูดให้ตัวเมียมาผสมพันธุ์ บางชนิดมีการเปลี่ยนสีขนให้สดใสขึ้น เช่น นกชายเลนจะผลัดขนสีสดใสต่างไปจากสีขนปกติส่วนนกยางจะมีขนฟูยาวสวยงาม นกบางชนิดมีการเปลี่ยนแปลงอวัยวะส่วนอื่น เช่น นกโจรสลัดจะขยายถุงลมใต้คอให้โป่งพอดีเป็นสีแดงสด การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับนกในช่วงผสมพันธุ์ ช่วยให้เราสามารถจำแนกชนิดและเพศของนกได้ด้วย นอกจากนี้นกยังมีพฤติกรรมที่แสดงถึงการเกี้ยวพาราสีอีกหลายประการ เช่น เสียงร้อง ในช่วงฤดูผสมพันธุ์นกทุกชนิดจะพากันส่งเสียงร้องค่อนข้างถี่กว่าช่วงอื่น สำหรับนกยูงตัวผู้จะดึงดูดตัวเมียโดยรำแพนอวดคลุมหางที่มีสีสันสวยงาม ส่วนนกกระเรียนใช้วิธีเต้นรำในการเกี้ยวพาราสีตัวเมีย นกบางชนิดมีการสร้างสถานที่พิเศษขึ้นสำหรับการเกี้ยวพาราสี เช่น นกหว้าจะปัดกวาดพื้นเป็นลานสะอาด เพื่อการร่ายรำเกี้ยวตัวเมีย และมีนกบางชนิดที่ตัวเมียเป็นฝ่ายเกี้ยวพาราสีตัวผู้เสียเอง เพราะมีสีสันสวยกว่า เช่น นกโป่งวิด นกคุ่มอืด
เมื่อ นกได้คู่ผสมพันธุ์แล้ว ก็มาถึงช่วงของการสร้างรัง เพื่อใช้วางไข่และเลี้ยงดูลูกนกให้ปลอดภัยจากศัตรูและสภาพอากาศที่ไม่เหมาะ สม รวมทั้งยังช่วยให้ความอบอุ่นแก่ไข่และลูกนก นกส่วนใหญ่จะสร้างรังใหม่ทุกปี แต่มีบางชนิดกลับไปใช้รังเดิม เช่น เหยี่ยวออสเปรคู่เดิมจะกลับไปซ่อมแซมรังเก่าใช้ จนรังมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนปีที่นกใช้วางไข่ นกบางชนิดก็ไม่สร้างรัง แต่จะวางไข่บนพื้นดินเฉยๆ แล้วทำการฟักไข่ตรงนั้น เช่น นกตบยุง และมีนกอีกหลายชนิดไม่รู้จักสร้างรัง แต่แอบวางไข่ในรังนกชนิดอื่นๆ เพื่อให้นกนั้นเลี้ยงลูกให้จนโต เช่น นกกาเหว่า นกอีวาบตั๊กแตน
สถาน ที่สร้างรังเป็นสิ่งสำคัญประการแรกที่นกคำนึงถึง นกจะเลือกสร้างรังในจุดที่ศัตรูเข้าไปถึงได้ยากที่สุด เช่น ปลายกิ่งไม้ ตามโพรงไม้ บางชนิดทำรังอยู่บนเกาะกลางทะเลห่างไกลผู้คน เช่น นกบู๊บบี้ แต่มีบางชนิดสามารถปรับตัวเข้ามาทำรังตามบ้านเรือนหรือบริเวณใกล้เคียงตามใน เมืองได้ เช่น นกกระจอกบ้าน นกกางเขนบ้าน วัสดุที่นกใช้สร้างรังมักขึ้นอยู่กับลักษณะของรัง ซึ่งต่างกันไปตามชนิดของนกแต่ต้องคำนึงถึงความมั่นคงแข็งแรงและไม่เป็นจุด เด่นให้สังเกต ได้ง่ายเป็นหลักส่วนใหญ่มักได้จากส่วนต่างๆ ของต้นไม้ เช่น กิ่งไม้ ใบไม้ เยื่อไม้
เมื่อ แม่นกวางไข่แล้วตามปกตินกตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันฟักไข่แต่ส่วนใหญ่เป็น หน้าที่ของตัวเมียโดยจะผลัดกันฟัก ตัวผู้เป็นฝ่ายหาอาหารและช่วยฟักบางช่วง แม่นกต้องรักษาอุณหภูมิของไข่ให้คงที่เฉลี่ย 34 องศาเซลเซียส โดยใช้ ? แผ่นฟักไข่ ? ช่วยถ่ายเทความร้อนจากตัวแม่นกให้แก่ไข่ คอยรักษาอุณหภูมิไข่ไว้ไม่ให้ร้อนหรือเย็นเกินไป แผ่นฟักไข่เป็นบริเวณท้องที่ขนหลุดร่วงไปก่อนจะฟักไข่และมีเส้นเลือดมากมาย มาหล่อเลี้ยง นกบางชนิดไม่มีแผ่นฟักไข่ เช่น เป็ด จึงต้องใช้วิธีดึงขนอุยบริเวณหน้าท้องหรือหน้าอกให้ร่วงลงพื้นรังเพื่อสร้าง ความอบอุ่น นกบู๊บบี้ฟักไข่โดยใช้เท้าที่มีพังผืดและเต็มไปด้วยเส้นเลือดช่วยถ่ายเทความ ร้อนสู่ไข่ ทั้งนี้นกจะฟักไข่ทั้งกลางวันและกลางคืน ระยะเวลาฟักไข่เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาที่นกวางไข่ฟองสุดท้าย จนกระทั่งไข่ฟองสุดท้ายฟักออกเป็นตัว ส่วนใหญ่นกใช้เวลาฟักไข่นาน 2 สัปดาห์ แต่นกที่มีขนาดใหญ่จะใช้เวลานานกว่านี้
พ่อ แม่นกต้องคอยดูแลปกป้องและคุ้มครองลูกนกทันทีที่ออกจากไข่ ถ้าเป็นนกที่ทำรังบนพื้นดินพ่อแม่นกอาจคาบเปลือกไข่ไปทิ้งให้ไกลจากรัง เพราะเปลือกไข่ด้านในที่แตกออกมามีสีขาวเด่นชัด ทำให้ศัตรูสังเกตเห็นได้ง่าย แต่ถ้าเป็นนกชนิดที่ลูกนกสามารถออกเดินตามพ่อแม่ไปได้ทันทีที่ออกจากไข่ พ่อแม่ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจเปลือกไข่ เพราะพ่อแม่นกจะนำลูกนกทิ้งรังออกไปหากินที่อื่น
ลูก นกแรกเกิดมีวิวัฒนาการที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตในช่วงที่ต้องอยู่กับพ่อแม่ ถ้าเป็นลูกนกที่อยู่ในไข่จนโตเต็มที่จึงออกมา ลูกนกประเภทนี้พอออกจากไข่จะลืมตาได้เลย มีขนอุยขึ้น และสามารถออกจากรังได้ทันที เช่น ลูกเป็ด ลูกไก่ พ่อแม่จะพาลูกออกจากรังไปหากินได้เลย แต่หากเป็นลูกนกที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ลูกนกประเภทนี้ออกจากไข่โดยมี ขนอุยปกคลุม ตัวน้อยมากหรือไม่มีเลยยังลืมตาไม่ได้ และขาไม่แข็งแรง เช่น ลูกนกแต้วแล้ว ลูกนกแก้ว พ่อแม่ต้องนำอาหารมาป้อนให้ อาหารที่นำมาป้อนต้องมีโปรตีนสูง เพราะจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกนก แม้แต่นกที่กินผลไม้หรือน้ำหวาน พ่อแม่ยังต้องนำหนอนหรือแมลงมาป้อนลูกนก ซึ่งพ่อแม่นกมีวิธีป้อนอาหารให้ลูกนกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ลูกนกได้รับอาหารจากปากพ่อแม่โดยตรง สำหรับน้ำลูกนกจะได้รับปนมากับอาหาร
พฤติกรรม อีกประการหนึ่งซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของพ่อแม่นกคือ ป้องกันภัยให้ลูกนก พ่อแม่นกเกือบทุกชนิดต้องเฝ้าดูแลให้ลูกนกปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา หากมีศัตรูเข้ามาใกล้ พ่อแม่อาจใช้วิธีขับไล่โดยตรงหรือใช้วิธีอำพรางศัตรู เช่น นกกระแตแต้แว้ด จะแกล้งทำปีกหักล่อให้ศัตรูหันมาสนใจกับตนแทนลูกนก เมื่อเห็นว่าลูกนกปลอดภัยแล้ว จึงรีบบินหนีไปอย่างรวดเร็ว เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นนกมีลักษณะก้าวร้าวอาจจะบินโจมตีหรือส่งเสียงขับไล่ นั่นหมายถึงว่ามีรังพร้อมทั้งลูกนกอยู่บริเวณนั้น ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังไม่เข้าใกล้รังจนเกินไปหรือหลีกเลี่ยงไปทางอื่น เสีย เพื่อไม่ให้เป็นรบกวนจนนกต้องทิ้งรังไปหรืออาจเป็นการนำศัตรูของนกเข้าไปที่ รังได้
พ่อ แม่นก ต้องใช้เวลาในการเลี้ยงดูลูกนกนานหลายสัปดาห์โดยลูกนกจะได้รับการฝึกหัดจาก พ่อแม่ทุกประการ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่รอดด้วยตนเองได้ ลูกนกจะได้รับการสอนให้หาอาหารเอง รู้จักเลือกกินอาหาร หัดบิน ส่งเสียงร้อง และพฤติกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต
พฤติกรรม ต่างๆ ที่นกแสดงออกเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการเกี้ยวพาราสี การคาบวัสดุสร้างรังหรือป้อนอาหาร หากเราสังเกตดูจะทราบว่านกกำลังอยู่ในช่วงผสมพันธุ์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมในช่วงวงจรชีวิตของนกที่เราควรบันทึกรายละเอียด วันเวลา สถานที่ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเรื่องราวการดำรงชีวิตของนก รวมทั้งลักษณะของรังและพัฒนาการของลูกนกที่พบ การเฝ้าสังเกตนกที่อยู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ จะต้องทำอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อมิให้เป็นการรบกวนนก เพราะอาจทำให้นกทิ้งรังและไข่ได้ หรือหากไข่ถูกทิ้งนานเกินไปอุณหภูมิไม่คงที่อาจจะทำให้ไข่นั้นไม่ฟัก และการปรากฎตัวใกล้รังนกบ่อยๆ อาจทำให้สัตว์ล่าสงสัยและเข้ามาพบรังนกได้


1 ความคิดเห็น:

  1. สอบถามเรื่องนกหน่อยครับ คือที่คอนโดผมมีนกกระติ้ดขี้หมูมาทำรังในบ้านไม้ที่ผมติดไว้ให้ ตอนนี้ลูกมันโตแล้ว อย่างนี้ผมต้องเอาซากรังเก่ามันทิ้งมั้ยครับหรือปล่อยไว้อย่างนั้น แล้วนกมันจะกลับมาอยู่รังเดิมมั้ยครับ

    ตอบลบ